ในบรรดาพี่น้อง 5 คน บัวขาว เป็นบุตรคนที่ 4 ของครอบครัวบัญชาเมฆ เขาเริ่มชกมวยไทยตั้งแต่ 8 ขวบอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์บ้านเกิด กระทั่ง 7 ปีต่อมา บัวขาว ได้เข้ามาเป็นนักมวยของ “กำนันแก๊” ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายมวย ป.ประมุข ทำให้เขามีโอกาสได้ขึ้นชกมวยในศึกวันทรงชัยที่เวทีลุมพินี พระราม 4
ในแง่การศึกษาปัจจุบัน บัวขาว มีดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์ สำเร็จการศึกษาปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ส่วนไฟต์เปิดตัวของบัวขาวที่ราชดำเนิน เกิดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม 2543 โดยพบกับ เวหาสน์ ลูกพระบาท ด้วยความที่เป็นมวยใหม่เหมือนกัน ทำให้บัวขาวที่แข็งแรงกว่า ฟันศอกเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 4
ในปี 2004 บัวขาว ได้ขึ้นชก K-1 ครั้งที่ ในรายการ K-1 World MAX 2004 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนท์แข่งแบบแพ้คัดออก แม้จะลงแข่งเป็นครั้งแต่ บัวขาว ก็โชว์ความแข็งแรงเอาชนะคู่แข่งได้ 3 รวด โดยในรอบล้มแชมป์เก่าอย่าง มาซาโตะ จากญี่ปุ่น พร้อมแบ่งเข็ดขัดแชมป์มาครองได้ ชัยชนะที่แดนอาทิตย์อุทัยทำให้บัวขาวกลายเป็นกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วข้ามคืน แม้จะมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง แพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่ก็ยังทวงคืนบังลังก์การันตีว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการมวยโลก
ล่าสุดไม่นานมานี้ยอดมวยไทย เพิ่งเข้ารับตำแหน่งบอร์ดบริหารของ สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย พาทีมประสบความสำเร็จในซีเกมส์ 2021 ด้วยการคว้า 2 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง พร้อมทั้งยังนั่งตำแหน่งประธานพัฒนากีฬามวยเวทีราชดำเนินเพื่อยกระดับมวยไทยให้ไปสู่ระดับนานาชาติ
วันที่ 19 สิงหาคมนี้ บัวขาว บัญชาเมฆ กำลังจะหวนคืนสู่เวทีราชดำเนินอีกครั้ง น้อยคนนักจะได้เห็นซูเปอร์สตาร์นักมวยของเมืองไทยขึ้นชกบนเวทีระดับตำนาน โดยขึ้นชกกับ “โคตะ มิอูระ” นักสู้ MMA ทายาทของ “คิง คาซู” คาซึโยชิ มิอุระ นักฟุตบอลระดับตำนานของญี่ปุ่น ในกติกา โดจะขึ้นชกเป็นคู่ที่ 9 ซึ่ง 8 คู่ก่อนหน้านั้นอัดแน่นไปด้วยมวยไทยระดับคุณภาพ